Page 51 - ฉบับที่ 2-66E-Book_วารสาร_พลาสติก_มีนาคม-เมษายน 2566
P. 51

รายงานสถิิติินำเข้้า-ส่งออก




                              สถานการณ์การค้าระหว่างประเทศ เดือนกุมภาพันธ์ 2566



                                     มูลค่าส่งออก 22,376 Mil. USD  4.7% (YoY) (หักน้ ามันและทองค า 21,400 Mil. USD
           การส่งออก                 2.1% (YoY)) หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 จากกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มพลาสติก/ของท าด้วย
                                                                    
                               พลาสติก และกลุ่มยาง/ของท าด้วยยาง

                                                  มูลค่าส่งออกในสกุลเงินบาท หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 โดยมีมูลค่า 730,123 ลบ. ลดลง
             สินค้าหลัก  รถยนต์นั่ง  (+23.9%)     40,909 ลบ. (-5.3%) (หักน้่ามันและทองค่า -2.7%)
                     เครื่องปรับอากาศ
                                     (+7.5%)
                                                  ประเทศคู่ค้าหลักหดตัวเกือบทั้งหมด ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จีน และญี่ปุ่น (สัดส่วนร้อยละ
                     วงจรรวมอิเล็กทรอนิกส์
                                     (+3.5%)
 วงจรรวมอิเล็กทรอนิกส์                            16 11 และ 9 ตามล่าดับ) โดยสหรัฐอเมริกา มูลค่าต่่าสุดในรอบ 18 เดือน หดตัวสูงสุด 10.1%
                                                  จีนและญี่ปุ่น หดตัวร้อยละ 8.4 และ 3.1 ตามล่าดับ รวมถึงกลุ่มอาเซียนหดตัวเช่นกัน
                     เครื่องประดับ   (+88.3%)
             เพิ่มขึ้น  พลอยเจียระไน  (+3.9 เท่า)  สินค้าที่ลดลงต่อเนื่อง ได้แก่ ทองค า (สวิสเซอร์แลนด์ และสิงคโปร์) หน่วยบันทึกข้อมูล
                                                   มูลค่าส่งออกต่่าเป็นอันดับ 2 รองจาก ม.ค.66 ต่่าสุดเป็นประวัติการณ์ (สหรัฐอเมริกา จีน
                     รถยนต์นั่ง      (+23.9%)      และฮ่องกง) และยางธรรมชาติ (จีน มาเลเซีย และญี่ปุ่น)
                     ทองค่า          (-75.4%)      สินค้าที่ขยายตัวสูง ได้แก่ เครื่องประดับ มูลค่าสูงสุดในรอบ 5 เดือน ขยายตัวต่อเนื่อง 24 เดือน
             ลดลง    หน่วยบันทึกข้อมูล  (-38.3%)   ที่ฮ่องกง +4.5 เท่า และสิงคโปร์ +15.0 เท่า พลอยเจียระไน มูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์
                                                   ตลาดหลักและขยายตัวที่ฮ่องกง +18.9 เท่า และรถยนต์นั่ง ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7
                     ยางธรรมชาติ     (-34.4%)      ที่ตลาดอินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ รวมถึง เครื่องยนต์อากาศยาน สูงสุดในรอบ 31 เดือน
             ภาพรวมสินค้าเกษตร
               ส่งออกลดลงสูงสุด ได้แก่ ยางธรรมชาติ (-34.4%) จากปริมาณและราคาที่ลดลง ที่ตลาดหลัก คือ จีน และมาเลเซีย ของปรุงแต่งส าหรับเลี้ยงสัตว์
               (-23.9%) ตลาดหลักและลดลงที่สหรัฐอเมริกา และแป้งมันส าปะหลัง (-27.1%) หดตัวที่ตลาดหลักจีน และอินโดนีเซีย
               สินค้าที่ขยายตัวสูง ได้แก่ น้ ามันปาล์ม สูงสุดในรอบ 8 เดือน  (+4.5 เท่า) ขยายตัวสูงสุดที่ตลาดหลักอินเดีย ทุเรียนสด (+2.9 เท่า) ตลาดหลักและ
               ขยายตัวสูงสุดจากจีน (+4.4 เท่า) และน้ าตาล มูลค่าส่งออกสูงเป็นประวัติการณ์ (+20.6%) ขยายตัวสูงสุดที่ฟิลิปปินส์

                                                                 1.1% (YoY) (หักน้ ามัน และทองค า 17,607 Mil. USD
                                     มูลค่าน าเข้า 23,490 Mil. USD 
            การน าเข้า          0.2%) ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 จากกลุ่มเชื้อเพลิง และกลุ่มยานยนต์

                                                                                       สินค้าน าเข้าหลัก
               มูลค่าน่าเข้าในรูปเงินบาท 776,425 ลบ. เพิ่มขึ้น 3,968 ลบ. หรือร้อยละ 0.5 ขยายตัว
               ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 (หากหักน้่ามันและทองค่า หดตัวร้อยละ 0.3)   น ้ำมันดิบ           (+20.7%)
      8544                                                                                              (+2.1%)
               ประเทศคู่ค้าหลัก ได้แก่ จีน (มูลค่าต่่าสุดในรอบ 23 เดือน) และญี่ปุ่น หดตัวต่อเนื่องเป็น  วงจรรวมอิเล็กทรอนิกส์
               เดือนที่ 3 จากโทรศัพท์/อุปกรณ์ และทองแดงบริสุทธิ์ ตามล่าดับ ขณะที่สหรัฐอเมริกา  ก๊าซธรรมชาติ  (+28.1%)
               ขยายตัวจากถั่วเหลืองและเครื่องเพชรพลอย ส่วน CLMV และกลุ่มอาเซียน 5 ขยายตัวจากน้่ามันดิบ
               สินค้าที่ขยายตัวสูงยังคงเป็นกลุ่มเชื้อเพลิง ขยายตัว 2.3 หมื่น ลบ. หรือ 15.0% [น้่ามันดิบ   สินค้าน าเข้า เพิ่มขึ้น/ลดลง สูงสุด
               +20.7% (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) ก๊าซธรรมชาติ +28.1% (โอมาน อิเควทอเรียลกินี และคูเวต   น้่ามันดิบ  (+20.7%)
               +1.0 หมื่นลบ. ปีก่อนไม่มีน่าเข้า และจีน มูลค่า 4,730 ลบ. ปีก่อน 3 ลบ.) พลังงานไฟฟ้า (ลาว)] และ  ก๊าซธรรมชาติ  (+28.1%)
               กลุ่มยานยนต์ ที่ขยายตัว 1.2 หมื่น ลบ. หรือ 43.7% (รถยนต์นั่ง มูลค่าสูงเป็นอันดับ 2   รถยนต์นั่ง  (+2.2 เท่า)
               รองจากเดือนก่อนที่สูงเป็นประวัติการณ์ และส่วนประกอบยานยนต์ ขยายตัวต่อเนื่อง 10 เดือน)
                                                                                   ทองค้ำ               (-46.4%)
               สินค้าที่หดตัวสูงจากกลุ่มอัญมณี (ทองค่าจากสวิสเซอร์แลนด์ และเงินชุบจากจีน)
               กลุ่มเครื่องจักรกล (เครื่องยนต์ดีเซลและคอมเพรสเซอร์) และกลุ่มสินค้าเหล็ก (ท่อนเหล็ก   เครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์  (-87.3%)
               และแผ่นเหล็กกล้าเจือรีด) รวมถึง ปีก่อนมีการน่าเข้าเครื่องบินโดยสารใช้แล้ว จ่านวน 2 ล่า  น ้ำมันส้ำเร็จรูป  (-18.7%)

            ภาพรวมการค้า             มูลค่าการค้า 45,866 Mil. USD หดตัว 858 Mil. USD หรือร้อยละ     1.8 (YoY)
                                                                                          
                                     หดตัวหลังจากเดือนก่อนขยายตัว

            • มูลค่าการค้ารวมในรูปเงินบาท 1.507 ล้านล้านบาท ต่่าสุดในรอบ 13 เดือน หดตัว 36,941 ล้านบาท
                       
               หรือร้อยละ        2.4 (YoY) และเป็นการกลับมาหดตัวอีกครั้งหลังจากเดือนก่อนขยายตัว
            • ดุลการค้าขาดดุล 1,113 Mil. USD (46,301 ล้านบาท) ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 โดยขาดดุลสูงสุดจากจีน
                                                                      ส่วนวิเคราะห์และติดตามการจัดเก็บภาษีอากร ศปข.กรมศุลกากร มีนาคม 2566
          ขอัขอับคุณข้อัมูลจากเว็บไซึ่ต์ : กร์มศุลกากร์
          http://www.customs.go.th/data_files/309615d75b1c1c147203f04475498f8b.pdf

                                                                                                         49
                                                                                                         49
                                                                                  March-April 2023
   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56